วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559


ความแตกต่างระหว่างดีเอ็นเอ(DNA)และอาร์เอ็นเอ(RNA) 

(Difference between DNA and RNA)

1.ดีเอ็นเอ(DNA)โดยทั่วไปมีสภาพเป็นสายคู่(double strand)ส่วน
   อาร์เอ็นเอ(RNA)โดยทั่วไปมีสภาพเป็นสายเดี่ยว(single strand)

2.ดีเอ็นเอ (DNA)มีไนโตรจีนัสเบส(nitrogenous base)เป็นองค์ประกอบ ได้แก่ A(อะดีนีน) และ G(กัวนีน) ที่เป็นพวกพิวรีนหรือเพียวรีน (Purine)และT(ไทมีน)และC(ไซโตซีน)ที่เป็นพวกไพริมิดีน(Pyrimidine)
   อาร์เอ็นเอ(RNA)มีเบสU(ยูราซิล)เข้ามาแทนที่เบสT(ไทมีน) คือมี A(อะดีนีน),G(กัวนีน),
C(ไซโตซีน)และU(ยูราซิล)
3.ดีเอ็นเอ (DNA) มีน้ำตาลดีออกซีไรโบส(deoxyribose)เป็นองค์ประกอบ
   อาร์เอ็นเอ(RNA)มีน้ำตาลไรโบส(ribose)เป็นองค์ประกอบ


การใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีชีวภาพ

(Applications of biotechnology)


การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีชีวภาพมีหลายด้านเช่น

     1. เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อการเกษตร คือ การพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์พืช โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและเซลล์พืช การตัดแต่งยีน ตัวอย่างเช่น การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อขยายพันธุ์กล้วยไม้ การตัดแต่งยีนเพื่อการพัฒนาพันธุ์พืชต้านทานต่อศัตรูพืชหรือโรคพืช การพัฒนาผลไม้ให้สุกงอมช้า
     2. เทคโนโลยีชีวภาพเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร คือ การเพิ่มคุณค่าผลผลิตของอาหาร ตัวอย่างเช่น การลดปริมาณโคเลสเตอรอลในไข่แดง การทำให้โคและสุกรเพิ่มปริมาณเนื้อ

     3. เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อสิ่งแวดล้อม คือ การลดการใช้สารเคมีที่เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การนำของเสียจากสิ่งมีชีวิตไปทำปุ๋ยหรือการผลิตปุ๋ยชีวภาพจากสารอินทรีย์ การใช้จุลินทรีย์ในการกำจัดขยะหรือน้ำเสีย

     4.เทคโนโลยีชีวภาพด้านเทคโนโลยีการแพทย์เพื่อสุขภาพ ตัวอย่างเช่น การผลิตวัคซีนป้องกันโรค การผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคและการเยียวยารักษา การใช้เทคโนโลยีดีเอ็นเอตรวจสอบความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือโรคทางพันธุกรรมต่างๆ การผลิตยาจากผลิตภัณฑ์จากสิ่งมีชีวิต



แม่น้ำสายหลักของประเทศไทย(ภาคเหนือ)

1.แม่น้ำปิง

          มีต้นกำเนิดจากยอดน้ำถ้วย บนเทือกเขาแดนลาว ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ไหลผ่านลงไปทางใต้ผ่านจังหวัดลำพูนแล้วไหลไปบรรจบกับแม่น้ำวงที่บ้านปากวัง จังหวัดตาก แม่น้ำปิงมีความยาวจาก ต้นน้ำถึงนครสวรรค์ ซึ่งเป็นจุดรวมกับแม่น้ำ 3 สาย กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา มีความยาว 600 กม.

2.แม่น้ำวัง

          มีต้นกำเนิดจากบริเวณทางตอนเหนือของน้ำตกวังแก้ว บนทิวเขาผีปันน้ำในเขตอำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ไหลทางใต้ผ่านจังหวัดตาก ไปรวมกับแม่น้ำปิงที่บริเวณชายฝั่ง เหนือบ้านปากวังจังหวัดตาก แม่น้ำวังมีความยาวประมาณ 300 กิโลเมตร

3.แม่น้ำยม

          มีต้นกำเนิดจากดอยชุมยวม 2 ซึ่งอยู่ทิศใต้ของทิวเขาแดนลาว ในเขตอำเภอปง จังหวัดพะเยา ไหลผ่านไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านจังหวัดแพร่ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร แล้วไปรวมกับแม่น้ำน่านที่บ้านเกยชัย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ แม่น้ำยม มีความยาวประมาณ 550 กิโลเมตร

4.แม่น้ำน่าน

          มีต้นกำเนิดจากทิวเขาหลวงพระบางด้านทิศตะวันตกในเขตตำบลปอเกลือเหนือ อำเภอบัว จังหวัดน่าน ไหลไปทางทิศเหนือแล้วไปหักทางใต้ ผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร แล้วไปรวมกับแม่น้ำยม ก่อนที่จะไปรวมกับแม่น้ำปิง และวัง ที่ตำบลแควใหญ่ จังหวัดนครสวรรค์ แม่น้ำน่านมีความยาวประมาณ 740 กิโลเมตร
          แม่น้ำน่าน มีเขื่อนเอนกประสงค์กั้นถึง 2 แห่ง คือ เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ และเขื่อนนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

ถนนสายหลักของไทย

        
        1. ถนนพหลโยธิน (สายเหนือ) เป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 โดยเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง และสุดปลายทางที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รวมระยะทางประมาณ 1,005 กิโลเมตร
       
         2. ถนนมิตรภาพ (สายตะวันออกเฉียงเหนือ) เป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 โดยแยกจากถนนพหลโยธิน ที่จังหวัดสระบุรี ผ่านจังหวัดนครราชสีมา อำเภอพล อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และสุดปลายทางที่จังหวัดหนองคาย รวมระยะทางได้ประมาณ 615 กิโลเมตร
        
         3. ถนนสุขุมวิท (สายตะวันออก) เป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 เริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และสุดปลายทางที่จังหวัดตราด รวมระยะทาง 400 กิโลเมตร
        
        4. ถนนเพชรเกษม (สายใต้) เริ่มต้นที่เชิงสะพานเนวจำเนียร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส และสุดปลายทางที่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา รวมระยะทาง 1,274 กิโลเมตร

พลังงานทดแทน
                “พลังงานทดแทนหรือ พลังงานทางเลือกคือพลังงานที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และสามารถนำมาใช้ทดแทนพลังงานแบบเดิมได้อย่างไม่จำกัด โดยพลังงานที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นพลังงานที่ได้จากฟอสซิลเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ถ่านหิน ปิโตรเลียม และแก๊สธรรมชาติ ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสูง ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกซึ่งเป็นปัญหาของภาวะโลกร้อนนั่นเอง
ประโยชน์ของพลังงานทดแทน
                 พลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก จึงเป็นพลังงานที่สามารถนำมาใช้ทดแทนพลังงานแบบเดิมได้อย่างไม่จำกัด ทั้งยังหาได้จากธรรมชาติและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ประหยัดพลังงาน รวมทั้งลดมลพิษอีกด้วย




น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก
 น้ำตกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนนิยมไปท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งน้ำตกนั้นก็มีอยู่หลากหลายแห่งจากทั่วโลก น้ำตกที่สูงที่สุดในโลกนั้นก็คือ น้ำตกแองเจล (Angel Falls) เป็นน้ำตกที่อยู่กลางป่าดงดิบของประเทศเวเนซุเอลลา ซึ่งมีความสูงกว่า 979 เมตร สูงกว่าน้ำตกไนแอการาถึง 18 เท่า
 ผู้ค้นพบน้ำตกแห่งนี้เป็นคนแรกก็คือ จิมมี เอนเจล นั่นเอง โดยเขาได้ค้นพบน้ำตกที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้เมื่อปี ค.ศ. 1935 และหากจะเข้าไปเยี่ยมชมนั้นสามารถเข้าไปชมได้เพียงสองทางคือ ทางเครื่องบิน หรือทางเรือเท่านั้น
 นอกจากนี้น้ำตกแห่งนี้ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ นั่นก็คือ น้ำที่ตกนั้นไม่สามารถตกลงถึงพื้นได้ เพราะน้ำตกแห่งนี้มีความสูงมาก เมื่อน้ำตกลงไปกว่าจะถึงพื้นก็กลับกลายเป็นหมอกไปเสียก่อน และนี่จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหมอกหนาที่ปกคลุมอยู่ตลอดเวลา
 และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ได้มีการเปลี่ยนชื่อของน้ำตกแห่งนี้เป็น เคเร ปาคุปาอิ เมรู โดยประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ แห่งประเทศเวเนซุเอลลา ซึ่งเหตุผลที่ทำการเปลี่ยนชื่อน้ำตกแห่งนี้ก็คือ น้ำตกแห่งนี้เป็นของชาวเวเนซุเอลลามานานตั้งแต่ก่อนที่จิมมี เอนเจล จะมาค้นพบนั่นเอง

5 สถานที่ดูหมอกยอดดอยเชียงใหม่
1 . ดอยผ้าห่มปก
               ดอยผ้าห่มปกใน อ.ฝาง สูงถึง 2,285 เมตรจากระดับน้ำทะเล  สูงเป็นอันดับสองของประเทศไทย วิวทิวทัศน์สวยงามมาก หากมองไปทางทิศตะวันตกจะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนในประเทศพม่า  ทางทิศใต้เห็นยอดดอยหลวงเชียงดาว ทางทิศตะวันออกเห็น อ.แม่อาย อ.ฝาง และอ.ไชยปราการ ในหน้าหนาวทะเลหมอกขาวโพลนจะปกคลุมทั่วหุบเขาข้างล่าง จนเป็นจุดดูทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงดังสุดๆแห่งหนึ่งในประเทศไทย

2. ดอยหลวงเชียงดาว


               อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ด้วยฉากของจริงตระการตาของทิวเขารอบตัวแบบ 360 องศา  เหนือขอบฟ้า ระดับความสูง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล ยอดดอยเชียงดาวคือหนึ่งในยอดดอยเมืองไทยที่ทุกคนต้องมาสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต แม้จะมีความสูงเป็นอันดับ 3 แต่ดอยหลวงเชียงดาวคือเทือกเขาหินปูนที่สูงที่สุดในประเทศไทยแลนด์แดนสนธยา ทัศนียภาพของบรรดายอดเขาหินปูนหยักแหลมตะปุ่มตะป่ำสร้างความตื่นตาปนตื่นใจ ตลอดเส้นทางเดินที่ไต่ไปตามสันเขายังเต็มไปด้วยดอกไม้และพืชพันธุ์ที่อาศัยจำเพาะบนเทือกเขาหินปูนที่มีอากาศหนาวเย็น

3. ดอยอ่างขาง


               สถานที่ดูทะเลหมอกแห่งที่สองของอ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แม้ว่าดอยอ่างขางจะอยู่สูงไม่ถึง 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่หากวัดกันที่ระดับความหนาวเย็นแล้ว ที่นี้ไม่แพ้ที่ไหน ด้วยมีสภาพเป็นหุบเขาเหมือนแอ่งกระทะไม่ต้องบอกเลยว่าตลอดค่ำคืนในฤดูหนาว ที่นี่จะหนาวจนขึ้นสั่นสะท้าน จนขี้เกียจไปอาบน้ำอย่างแน่นอน  เมื่อถึงเวลาก่อนฟ้าสาง นักท่องเที่ยวก็ต่างพร้อมใจกันไปดูทะเลหมอกและเดินฝ่าความหนาวเย็นไปยังจุดชมวิวในตอนเช้า เพื่อรอชมความงามของทะเลหมอกที่แผ่ปกคลุมทั่วหุบเขา

4. ดอยอินทนนท์

             ดอยอินทนนท์ ดินแดนที่ต้องบอกว่า สูงสุดแดนสยามด้วยความสูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเล  ยอดดอยอินทนนท์อาจไม่ใช่จุดชมทะเลหมอกที่ดีนัก แต่เป็นสถานที่มีผู้อยากมาเยือน แล้วจะได้ยืนอยู่กลางเมฆหมอกซึ่งพัดผ่านมาตลอดเวลาแทน หลายครั้งที่หมอกหนาจัดจนมองเห็นได้เพียงระยะใกล้ๆ ไม่กี่เมตรเท่านั้น 

5. ห้วยน้ำดัง


                ห้วยน้ำดังตั้งอยู่ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จุดชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงที่สุดและสวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ใครไม่มาบอกว่าเสียใจถึงวันตายแน่นอน ด้วยความงามของทะเลหมอกที่ครอบคลุมทั่วหุบเขากว้างสอดสลับกับทิวเขาน้อยใหญ่ โดยมียอดดอยหลวงเชียงดาวอันโดดเด่นเหนือกลางทะเลหมอกสีขาว ห้วยน้ำดังหรือจุดชมวิวดอยกิ่วลมอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์เอื้องเงิน อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีทั้งลานกางเต็นท์ บ้านพัก เวลาเช้าสามารถลุกตื่นขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้อย่างสะดวกสบาย